แหล่งเรียนรู้ในตำบล
ทำเนียบแหล่งเรียนรู้
และแหล่งท่องเที่ยวใน ชุมชน/กศน.ตำบล บึงกาฬ
1. แหล่งการเรียนรู้ องอาจ ท่าโพธิ์ฟาร์ม
ประเภท แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
2. ที่ตั้งหมู่ที่ ๒๘๐ หมู่ที่ ๖ บ้านท่าโพธิ์ ตำบล บึงกาฬ อำเภอ เมืองบึงกาฬ จังหวัด บึงกาฬ
3. ประวัติความเป็นมา
คุณสมพรชัย องอาจ อยู่บ้านเลขที่ 280 หมู่ที่ 5 ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เล่าให้ฟังว่า เป็นคนที่ชอบทำเกษตรมาตั้งแต่สมัยเด็ก ไม่ว่าจะเห็นอะไรก็จะทำเรื่อยๆ แบบทีละเล็กละน้อย ต่อมาเมื่อเข้าสู่ชีวิตคู่จึงได้ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดนครปฐมกับภรรยา ก็จะประกอบอาชีพเพาะเห็ด เลี้ยงกบ และตลาดจนการปลูกไม้ผลต่างๆ ไปด้วย
“ช่วงนั้นก็ไปอยู่ที่นครปฐมก่อน เราก็จะไปปลูกพวกไม้ผลต่างๆ เอาไว้ ต่อมาก็ผลิตกิ่งพันธุ์ขาย ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ม่อนเบอรี่ หน่อกล้วยทำหมด คราวนี้พอช่วงที่บึงกาฬเริ่มมีการปลูกยางพารามากขึ้น ก็เลยย้ายมาอยู่ที่บ้านเกิด ซึ่งบริเวณรอบบ้านมันจะมีพื้นที่อยู่ประมาณ 1 ไร่ เราก็คิดว่า ต้องหาอะไรมาทำให้เกิดประโยชน์ และสร้างเงินให้เราให้ได้ ก็ทำแบบผสมผสานไปเลยน่าจะดี” คุณสมพรชัย กล่าว
กบในกระชังบก
เนื่องจากพื้นที่บ้านของเขาไม่สามารถที่จะทำบ่อสำหรับเลี้ยงปลาได้ เขาจึงได้เลือกเลี้ยงกบแทน โดยนำกบที่อยากเลี้ยงมาออกแบบให้อยู่ในกระชังบก ที่การเลี้ยงไม่มีอะไรยุ่งยากเพียงแค่ใส่น้ำนิดหน่อย และที่สำคัญกระชังบกยังประหยัดเนื้อที่ให้พอมีพื้นที่ว่างปลูกพื้นชนิดอื่นได้อีกด้วยซึ่งพืชที่ปลูกบริเวณบ้าน คุณสมพรชัย บอกว่า จะเลือกที่ให้ผลผลิตได้ไว ไม่ว่าจะเป็นมะเขือ พริก ถั่วฝักยาว มะม่วง มะนาว กล้วย และม่อนเบอรี่ โดยไม้ผลที่ปลูกไว้จะเป็นพันธุ์ดีที่ไปหาจากแหล่งต่างๆ แล้วนำมาปลูกให้มีอายุที่เหมาะสม จากนั้นก็จะทำการตอนกิ่งเพื่อขายกิ่งให้กับเกษตรกรที่สนใจซื้อไปปลูกต่อไป
-๒-
กิ่งพันธุ์มัลเบอรี่
“การเกษตรยิ่งทำยิ่งสนุก ยิ่งคิดยิ่งได้เงิน ผมไม่ได้หยุดอยู่แต่เพียงเท่านี้ ผมอยากเรียนรู้อะไรมากขึ้น อะไรที่เขามีอบรมผมก็ไปศึกษาเสมอ อยากจะบอกว่า ใครที่คิดว่ามีพื้นที่น้อย กลัวจะทำเกษตรไม่ได้ ผมต้องบอกว่าทำได้ หาสิ่งที่เหมาะสมกับพื้นที่เรา เพราะเกษตรมีมากมายหลายอย่างให้เราเลือก อย่างตอนนี้รอบบ้านผม พื้นที่ 1 ไร่ ก็ทำการเกษตรที่อัดแน่นไปหมด และที่สำคัญทำเงินได้จริง ตรงไหนที่ว่างก็ปลูกพื้นผักสวนครัว ไม้ผล และที่สำคัญกิ่งพันธุ์ไม้ผลที่นี่ขายดีมาก อย่างต้นไม้ไม่จำเป็นต้องปลูกเพื่อเอาผลผลิต แต่เราสามารถหากิ่งพันธุ์ดีมาตอนกิ่งขายได้” คุณสมพรชัย กล่าว
ซึ่งเวลานี้ คุณสมพรชัย บอกว่า มีความสุขมากที่ได้เลือกทำเกษตรแบบผสมผสาน เพราะสามารถทำเงินให้กับเขาได้หลายทาง เช่น การเลี้ยงกบ ก็สามารถขายได้ราคากิโลกรัมละ 100-130 บาท ส่วนกิ่งพันธุ์ไม้ผลที่ตอนขายก็ตกอยู่ที่กิ่งละ 100-150 บาท และส่วนพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้เพื่อกินเอง เมื่อผลผลิตมีมากพอก็สามารถนำไปขายทำเงินได้เช่นกัน โดยราคาก็จะได้ตามกลไกตลาด และที่สำคัญเป็นผักปลอดสารพิษอีกด้วย
เห็ดที่เพาะไว้ขาย พืชผักสวนครัวผลผลิตเตรียมขาย
“การเกษตรไม่มีอะไรที่ยาก เราอยากจะรองปลูกอะไร เราก็ปลูก แล้วศึกษาให้รู้จริงว่า สิ่งที่เราจะปลูกนั้นเขาชอบสภาพอากาศแบบไหน โดยเริ่มจากสิ่งเล็กน้อยๆ พอเราสนุกเรามีความชำนาญมากขึ้นก็ค่อยๆ เรียนรู้ทำชนิดอื่นไปเรื่อยๆ ที่ละความสำเร็จมันก็จะเกิด ต่อมาเรื่องของรายได้ พร้อมทั้งความสุข ผมบอกเลยว่ามีเกินร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน”
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสมพรชัย องอาจ หมายเลขโทรศัพท์ (085) 191-4546 ,
(062) 989-3562
-๓-
4. ความสำคัญ / เนื้อหาการเรียนรู้
องจาจฟาร์ม เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร และการทำเศรษฐกิจพอเพียง ศึกษาการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ การทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ เพื่อสุขภาพ
-ระบบบริหารจัดการเกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้
บริหารจัดการด้านการให้ความรู้ และการจัดการผลผลิตที่ได้จากการเกษตร
-จุดเด่น
สามารถเดินทางมาศึกษาดูงาน และมีวิทยากรที่ให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจมาศึกษาดูงานได้ และสามารถค้นหาข้อมูลได้จาก เฟสบุค องอาจฟาร์มท่าโพธิ์
-ปัญหาหรือข้อจำกัด
-การจราจร
-แนวทางการพัฒนา
-จะพัฒนาการปลูกพืชผักให้มีหลากหลายมากขึ้น
5. ผู้รับผิดชอบ
คุณสมพรชัย องอาจ หมายเลขโทรศัพท์ (085) 191-4546 , (062) 989-3562
https://www.facebook.com/people/องอาจ-ท่าโพธิ์ฟาร์ม
6. อื่น ๆ
ทำเนียบแหล่งเรียนรู้
และแหล่งท่องเที่ยวใน ชุมชน/กศน.ตำบล บึงกาฬ
1. แหล่งการเรียนรู้ ถนนคนเดิน@บึงกาฬ ตลาดต้องชม
ประเภท แหล่งท่องเที่ยวในชุมชน
2. ที่ตั้งหมู่ที่ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำโขง ตำบล บึงกาฬ อำเภอ เมืองบึงกาฬ จังหวัด บึงกาฬ
3. ประวัติความเป็นมา
จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย โดยก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 เทศบาลตำบลบึงกาฬ ได้ดำเนินการจัดถนนคนเดิน เมื่อปี พ.ศ. 2556 บริเวณถนนริมโขง โดยจำหน่ายทุกวันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 16.00 น. เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดบึงกาฬได้มีโอกาสเดินเล่นซื้อของสัมผัสบรรยากาศริมโขงและสัมผัสอากาศหนาวเย็นสบายกำลังดี ซึ่งมีการจำหน่ายอาหารของดีของท้องถิ่นและสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดบึงกาฬ สินค้าที่จำหน่ายสินค้าเกษตร ผลไม้ตามฤดูกาล อาหารพื้นเมือง เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า ผ้าซิ่น ผ้าพื้นเมือง จังหวัดบึงกาฬได้แต่งตั้งคณะทำงานโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น ตลาดต้องชม จังหวัดบึงกาฬ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ (นายธวัชชัย เนียมศิริ) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีนายกเทศมนตรีตำบลบึงกาฬ ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เกษตรจังหวัดบึงกาฬ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ พัฒนาการจังหวัดบึงกาฬ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดบึงกาฬ และประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ เป็นคณะทำงาน มีพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ มีผู้อำนวยการกลุ่มกำกับดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ และผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบึงกาฬ เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ ได้พิจารณาคัดเลือก ให้ ตลาดถนนข้าวเม่าริมโขง เป็น ตลาดต้องชม แห่งแรกของจังหวัดบึงกาฬ ภายใต้ชื่อ ตลาดต้องชม ถนนข้าวเม่าริมโขง ณ บึงกาฬ ตลาดถนนคนเดินแห่งนี้ เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอีกแห่งหนึ่งที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแหล่งสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดบึงกาฬ ถนนคนเดินจำหน่าย ณ ซอยข้างเทศบาล (ซอยวัดกลาง) เนื่องจากถนนข้าวเม่าริมโขงที่เป็นสถานที่จำหน่ายเดิมอยู่ระหว่างการปรับปรุงซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณสิ้นเดือน กรกฎาคม 2559 และตลาดจะย้ายไปจำหน่ายยังถนนริมโขง เช่นเดิม ปัจจุบันมีผู้ประกอบการนำสินค้ามาจำหน่ายประมาณ 200 กว่าราย เป็นสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้าของใช้ สินค้า OTOP สินค้าผักผลไม้ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2559 เป็นวัน Kick Off ในการนำสินค้ามาจำหน่ายบนถนนข้าวเม่าริมโขง มีผู้ประกอบการค้าและผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของชุมชนในจังหวัดบึงกาฬ และตลาดต้องชม ถนนข้าวเม่าริมโขง ณ บึงกาฬ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดบึงกาฬ
4. ความสำคัญ / เนื้อหาการเรียนรู้
ถนนคนเดิน (อังกฤษ: Pedestrian mall) เป็นการใช้พื้นที่ถนนสำหรับการจัดกิจกรรม อาจมีการปิดการจราจรชั่วคราว หรือถาวร เพื่อให้คนเดินเท้าสามารถใช้พื้นที่ถนนในการทำกิจกรรมต่างๆได้ เช่น เป็นที่จัดงานทางด้านวัฒนธรรม การแสดง ขายสินค้า ขายอาหาร งานพาเรด เป็นสถานที่ศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่
-ระบบบริหารจัดการเกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้
บริหารจัดการด้านความสะอาดและความปลดภัยแก่ นักท่องเที่ยว พ่อค้า-แม่ค้า ประชาชน
-จุดเด่น