: “ไม่มีคำว่าสายเกินไป” เป็นประโยคในเชิงคิดบวก(อีกแล้ว) ซึ่งมันจริงหรือ? ก็ในเมื่อที่ผ่านมาเราก็ล้วนรู้แก่ใจว่า เคยเสียเวลา เคยเสียโอกาส และอยากย้อนไปแก้ไขอะไรตั้งมากมาย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะ “มันสายไปแล้ว” นั่นเอง ดังนั้น ไม่มีคำว่าสายเกินไป มันก็แค่ประโยคปลอบใจตัวเองหรือเปล่า?
คงอคติเกินไปหากบอกว่าประโยคนี้ ไม่ดีหรือไม่จริง คำพูดย่อมขึ้นอยู่กับเจตนาและบริบทด้วย หากกล่าวว่า “ไม่สายเกินไป ที่จะ…” อาจเป็นจริงในหลายประการเช่น “ไม่สายไปที่จะเริ่มใหม่” อันหมายถึงที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว…แต่หากฝังหัวและปลอบตัวเองกับสิ่งเดิมว่าไม่สายเกินไปในทุกเรื่อง นั่นอาจเป็นคนที่ไม่เคยตระหนักในตอนที่ยังมีโอกาส หรือมีเวลาตัดสินใจอะไรได้อยู่ “ก่อนจะสายเกินไป” และรวมถึงพอคิดว่าไม่สายเกินไป ก็ไร้ความรอบคอบ เรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ จนพอล้มแต่ละครั้งก็นั่งปลอบใจกันว่า “ไม่มีคำว่าสายเกินไป” ที่มันไม่จริงสักนิด เพราะหลายอย่างมันเรียกคืนมาไม่ได้แล้ว
ด้วยชีวิตหลายคนยังวนเวียนพยายามแก้ไขปมบางอย่างที่มันสายไปแล้ว นอกจากไม่ดีขึ้น ยังทำให้เสียเวลา เสียโอกาส กระทั่งเลวร้ายลงกว่าเดิมเสียอีก เช่น เพิ่งอยากอบรมสั่งสอนลูกในตอนที่เขาเป็นวัยรุ่น แต่ตอนวัยเด็กตามใจจนเคยตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือยิ่งต่อต้านกัน และห่างเหินกันไปกว่าเดิม เช่นนี้ สายเกินไปชัดเจน
การยอมรับว่า “สายเกินไป” กับหลายอย่างอาจทำให้เรารอบคอบขึ้น เห็นค่าเวลาและโอกาสมากขึ้น และเข้าใจการ “เริ่มใหม่” ได้ดีขึ้น ป่วยการที่จะมานั่งย้อนเสียใจ หรือวนเวียนพยายามกับสิ่งที่สายไปแล้ว ต่อให้คนที่ตั้งใจ พยายามรอบคอบ ก็ยังผิดพลาดได้เช่นกัน จะสายไปหรือไม่ ก็ต้องเริ่มใหม่ให้เป็น สล็อต
การเริ่มใหม่ไม่จำเป็นว่าจะเปลี่ยนหัวเรื่อง หรือละทิ้งบางสิ่งไปเลยเสียทีเดียว แต่เป็นจุดเริ่มยอมรับในวิธีคิด กระบวนการ หรือวิธีการใหม่ ๆ แต่หากขาดการ “ยอมรับ” ว่ามันสายไปแล้ว เราอาจจะยังคงดันทุรังบนแนวคิดเดิม วิธีการเดิม ความเชื่อเดิม ซึ่งผลลัพธ์มันยากจะเปลี่ยนแปลง
สิ่งสำคัญสุดของเรื่องนี้คือ “ก่อนจะสายเกินไป” น่าจะดีกว่า “ไม่มีคำว่าสายเกินไป” เพราะหลายอย่างเสียเวลาหากดันทุรังมุ่งหน้าไปต่อ เทียบกันการกล้าที่จะเลือกหยุดเสีย ไปเริ่มอีกสิ่งหนึ่งทันที หรือเลือกเปลี่ยน เลือกปรับ เลือกเปิดใจ “ก่อนจะสายเกินไป” เพราะหลายอย่างแม้จะผิดหวัง เสียใจ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีใครย้อนเวลาได้มันจึงมีคำว่าสายไป แต่ใช่ว่าเราไม่มีโอกาสใหม่ ๆ ที่เราอาจได้เจออยู่อีกในอนาคต