วัดเซกาเจติยาราม (ดงไร่) พระอารามหลวงชั้นตรีโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา

 

ช่วงเวลาแห่งบุญกุศลตั้งแต่ แรมค่ำเดือนสิบเอ็ด ไปจนถึงกลางเดือนสิบสอง ที่เรียกว่า กฐิน ผมได้มีโอกาสร่วมทำบุญกฐินหลายกองเหมือนกัน เร็วๆ นี้ชาวบ้านทั่วถิ่นฐานจะมาร่วมสร้างบุญบำเพ็ญกุศล ณ วัดเซกาเจติยาราม (ดงไร่) อ.เซกา จ.บึงกาฬแห่งนี้ ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงพอจำได้ว่า…วัดแห่งนี้ได้มีการยกระดับจากวัดราษฎร์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา…



ซึ่งกว่าจะได้รับการคัดเลือกเป็นพระอารามหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านเกณฑ์ เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนมีอายุมากกว่า 50 ปี และมีพระสงฆ์จำพรรษาไม่น้อยกว่า 20 รูป ไม่น้อยกว่า 5 ปี นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ชวนจิตดลใจให้เหล่าลูกศิษย์ลูกหาหลั่งไหลเข้ามากราบสักการะ ตลอดจนคาราวะหลวงปู่เทพา ภูริปญฺโญ (พระครูสันติปัญญาภรณ์) ที่มากมายอยู่แล้วยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ผลของการได้รับคัดเลือกฯ ทำให้พุทธสถานแห่งนี้สามารถพัฒนา และยกระดับเพิ่มมนต์เสน่ห์ แต่คงความเป็นวัดสายปฏิบัติได้อย่างสวยงามโดดเด่น เช่น พระธาตุกตัญญู



บริเวณรอบๆ พระธาตุกตัญญูจะมีปู่ฤาษี 4 หน้ารายล้อม…



มีประติมากรรมรูปยักษ์ 2 ตน ยืนถือไม้ตะบองอยู่ด้านหน้า สิ่งที่ผมกำลังสงสัยอยู่ตอนนี้ คือ ทำไมยักษ์ทั้ง 2 ตน หน้าตาไม่คล้ายกัน เพราะโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นยักษ์คู่หน้าตา รูปร่างจะใกล้เคียงกัน คิดว่าทางวัดน่าจะมีแผนในการสร้างใหม่ เพราะยักษ์ด้านซ้ายมือกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง



ผมเดินทางถึงวัดไม่รอช้าตรงดิ่งเข้าไปกราบพระพุทธเมตตาโลกนาถก่อนจะนั่งถ่ายภาพ พระธาตุกตัญญู และนั่งพิศชมความสวยงามขององค์พระธาตุ แมกไม้ใหญ่หายากนานาพันธุ์ นกป่าหลากชนิดวกวนเวียน ส่งเสียงร้องราวกับว่าผมกำลังนั่งอยู่ในป่าลึก กระนั้น



สิ่งที่มาพร้อมกับคำว่า พระอารามหลวงชั้นตรี นอกจากงบประมาณที่จะหลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างวัดแบบอย่างแล้ว ยังพ่วงติดมากับความวิริยะ อุตสาห์ และจิตอันเป็นกุศลของชาวบ้าน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่ร่วมทำบุญกันอย่างต่อเนื่อง ผมมีเวลาจำกัดมาจริงเก็บข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังไม่มากนัก แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมจะได้เดินทางไปกราบพระ และทำบุญอีกครั้ง….