หน้าหลัก
บุคลากร
ภาพกิจกรรม
ระบบต่างๆ
ข่าวประชาสัมพันธ์
เว็บบอร์ด
เข้าสู่ระบบ
รายงานป้องกันยาเสพติด ชื่อกิจกรรม แผนงาน/โครงการ : โครงการ TO BE NUMBER ONE วัตถุประสงค์ กิจกรรม/แผนงาน/โครงการ ๒. สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ 1. ด้านการจัดการเรียนรูคุณภาพ 1.1 น้อมนำพระบรมราโชบายสูการปฏิบัติรวมทั้งสงเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริทุกโครงการ และโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 1.3 สงเสริมการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย การเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ อุดมการณ์ ความยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติและท้องถิ่น และหน้าที่ความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง รวมถึงการมีจิตอาสาผ่านกิจกรรมต่างๆ สอดคล้องกับมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษา กศน. มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน/ผู้รับบริการ ตัวบ่งชี้ที่ 1.3 ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความรู้พื้นฐาน ทักษะกระบวนการคิด ทักษะการแสวงหาความรู้ เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจัดการศึกษาและการให้บริการ ตัวบ่งชี้ที่ 2.6 คุณภาพการจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. หลักการและเหตุผล ตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ เป็นต้นมาโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ดำเนินการ ใครติดยายกมือขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด แสดงตนเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ ฝึกพัฒนาอาชีพ ให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ กระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีรูปแบบของการดำเนินงานตามแนวทางของโครงการ โดยเฉพาะโครงการ TO BE NUMBER ONE จึงเห็นควรสนองพระราชดำริขององค์ประธานโครงการฯ โดยจัดทำรูปแบบของการบำบัดรักษาผู้เสพและฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติด การดำเนินงานด้านการบำบัดรักษายังคงอิงระบบจิตสังคมบำบัดของกระทรวงสาธารณสุข พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี มูลนิธิวิมุตตยาลัย ได้ให้กรุณาแนะแนวทางการจัดทำหลักสูตร โดยใช้หลักธรรมพระพุทธศาสนาเป็นสาระสำคัญของการอบรม แนวคิดเรื่องการจัดค่ายอบรมฟื้นฟูจิตใจหลังการบำบัดรักษา อ้างอิงจากผลการศึกษาปัจจัยด้านบุคคลที่มีผลต่อการติดยาเสพติดซ้ำ (Personal Fact0rs Related to be Relapse Drug Users) โดย ดร.อาภาศิริ สุวรรณานนท์ และดร.รัตนา บรรณาธรรมและคณะ (๒๕๕๐) พบว่าปัจจัยด้านบุคคล เชิงลึกของผู้ติดยาเสพติดที่มีการกลับไปติดยาเสพติดซ้ำประการหนึ่งคือ การไม่มีเป้าหมายในชีวิต ทุกข์จากความเครียดในปัญหาต่าง ๆ และปัจจัยแตกต่างที่พบว่า ผู้ติดยาเสพติดซ้ำมีน้อยกว่าผู้เลิกยาเสพติดได้ คือ การมองเห็นคุณค่าตัวเองในความสำเร็จที่ผ่านมา ความภูมิใจและวิธีการแก้ปัญหาในปัจจุบัน ด้านการบำบัดคือ ต้องมีกิจกรรมให้คำปรึกษา กิจกรรมกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้จักคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองและรู้จักตนเอง สามารถวางเป้าหมายและเกิดแรงจูงใจทางบวกต่อการดำเนินชีวิต บำบัดที่เหมาะกับลักษณะผู้ป่วย ต้องมีการรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โครงการ TO BE NUMBER ONE เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เป็น ๒ กลุ่ม ด้านการป้องกันเน้นผู้เสพ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในสถานศึกษา และด้านการแก้ไขและป้องกันการ เสพซ้ำ เน้นกลุ่มติดยาในสถานพินิจฯ ซึ่งเป็นกลุ่ม Hard Core ทั้งนี้การดำเนินงานยังคงเน้นการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทางโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงยุติธรรม โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ช่วงระยะเวลาการดำเนินงานโครงการ นโยบายของรัฐบาลปัจจุบันให้ความสำคัญต่อเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้มาก โดยได้ประกาศนโยบายฟื้นฟูค่านิยมในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม การดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาอยู่อย่างพอเพียง มุ่งเน้นการจัดระเบียบลด ปัจจัยเสี่ยง รวมทั้งเสริมปัจจัยบวกสำหรับเยาวชน การพัฒนาเยาวชน เพิ่มกิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชน เช่น การประกวดกิจกรรม การส่งเสริมสุนทรียศาสตร์ต่าง ๆ การเล่นดนตรี การอบรมพัฒนาคุณธรรม ครอบครัวสัมพันธ์ ฉะนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาชมรม TO BE NUMBER ONE ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเซกาให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ศูนย์การศึกนอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเซกา จึงได้จัดทำโครงการ TO BE NUMBER ONE ขึ้น ๔. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มนักศึกษา ๒. เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาในชุมชน สถานศึกษาและสถานประกอบการ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ๓. เพื่อสร้างแกนนำในสถานศึกษาเพื่อให้กลับไปสร้างเครือข่าย วิเคราะห์ปัญหาวัยรุ่นและพัฒนาทักษะในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ๔. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานักศึกษาให้มีความสมบูรณ์พร้อมตามหลักการพัฒนาของพุทธศาสนาได้แก่ กาย สังคม อารมณ์ และจิตวิญญาณ ๕. เป้าหมาย เชิงปริมาณ 5.1.1 นักศึกษา กศน.อำเภอเซกา จำนวน ๔๐ คน รวมจำนวนทั้งหมด ๔๐ คน กลุ่มเป้าหมาย : 40 คน ระยะเวลาดำเนินการ : 2022-01-19 ถึง 2022-01-19 งบประมาณที่ใช้ : 0 บาท ตัวชี้วัดความสำเร็จ ๖. ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ ตัวชี้วัดผลผลิต นักศึกษาจำนวน ๘๐ คน ตัวชี้วัดผลลัพธ์ ๑. นักศึกษานักศึกษา ร้อยละ ๙๐ ได้รับการฝึกอบรมมีความความรู้และพัฒนาทักษะในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลสุขภาพตนเองและผู้อื่น การรักษาสิ่งแวดล้อม ๒. นักศึกษาแต่ละตำบลเป็นแกนนำในการขับเคลื่อน สร้างเครือข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหายา เสพติด ๗. ผลที่คาดว่าจะได้รับ นักศึกษาได้รับการฝึกอบรมเป็นแกนนำในสถานศึกษา เพื่อให้กลับไปสร้างเครือข่าย พัฒนาทักษะในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ร้อยละ ๙๐ มีความความรู้และพัฒนาทักษะในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลสุขภาพตนเองและผู้อื่น การรักษาสิ่งแวดล้อม บำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ เป็นพลเมืองดีของ ชุมขน สังคม และประเทศชาติต่อไป ภาคีเครือค่ายที่ร่วมจัดกิจกรรม เครือข่าย ๑. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเซกา ๒. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพทั้ง ๙ ตำบล ๓. สถานีตำรวจภูธรอำเภอเซกา ๔. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๙ ตำบล วันเวลาที่ลงข้อมูล 2022-01-26 08:13:29
รายละเอียด/รูปภาพ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ :สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดบึงกาฬ (สกร)
ที่อยู่ : 456 ม.1 ถ.บึงกาฬกลาง-บึงสวรรค์ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
โทรศัพท์ : 042492733